Roboforex ดีไหม รีวิวโบรกเกอร์และโบนัสเงื่อนไข

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ CFD และ ECN ที่ให้บริการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยมีจุดเด่นในเรื่องของค่าสเปรดต่ำ เลเวอเรจสูง และความหลากหลายของแพลตฟอร์มการเทรด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ RoboForex อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าโบรกเกอร์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่

รีวิว Roboforex ดีไหม
รีวิว Roboforex ดีไหม

RoboForex ดีไหม?

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย ด้วยจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ การรองรับภาษาไทย และความเสถียรของระบบ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ครบวงจรและเป็นมิตรกับนักลงทุนไทย

  • ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแล (CySEC และ IFSC) ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ
  • มีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย (8 ประเภทสินทรัพย์, 11,700+ ตราสาร)
  • รองรับภาษาไทยทั้งเว็บไซต์และบริการลูกค้า
  • ระบบมีความเสถียรสูง เหมาะสำหรับการเทรดที่ต่อเนื่อง
  • มีเครื่องมือสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เช่น CopyFX และบัญชี RAMM
  • สามารถฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังเล็กน้อย เช่น เงื่อนไขของโบนัสและความไม่เสถียรของการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต

จุดเด่น roboforex
จุดเด่น roboforex

RoboForex คืออะไร?

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ให้บริการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น Forex, CFDs, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี โบรกเกอร์นี้มีความโดดเด่นในเรื่องของค่าสเปรดที่ต่ำ เลเวอเรจสูง และความหลากหลายของแพลตฟอร์มการเทรด

RoboForex ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานสำคัญคือ:

  • Financial Services Commission (FSC) ในประเทศเบลีซ

แม้ว่าจะได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานเพียงแห่งเดียว แต่ RoboForex ได้สร้างชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้มาเป็นเวลากว่าทศวรรษ

logo Roboforex
logo Roboforex

ข้อมูลของโบรกเกอร์ RoboForex อย่างละเอียด

หัวข้อรายละเอียด
ก่อตั้ง2009
ใบอนุญาตFSC (เบลีซ)
ประเภทโบรกเกอร์โบรกเกอร์ CFD และ ECN
สินทรัพย์Forex, CFDs, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, คริปโตเคอเรนซี
แพลตฟอร์มMetaTrader 4, MetaTrader 5, cTrader, R WebTrader, R StocksTrader
บัญชีขั้นต่ำ$10 (บัญชีทั่วไป), $100 (บัญชี R StocksTrader)
สเปรดเริ่มต้น0 pips (บัญชี ECN)
เลเวอเรจสูงสุด1:2000
ภาษาที่รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษ

ประวัติและพัฒนาการ

RoboForex มีประวัติการดำเนินงานที่น่าสนใจ:

  • 2009: ก่อตั้งบริษัทในประเทศเบลีซ
  • 2010-2015: ขยายการให้บริการและเพิ่มผลิตภัณฑ์การลงทุน
  • 2016-2020: พัฒนาแพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง (R WebTrader และ R StocksTrader)
  • 2021-ปัจจุบัน: ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมมากกว่า 30 รางวัล และมีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายจาก 169 ประเทศทั่วโลก

การเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

RoboForex ดีไหม

ข้อดี

  1. ค่าสเปรดต่ำ:
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips สำหรับบัญชี ECN
    • เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำ
  2. เลเวอเรจสูง:
    • สูงสุดถึง 1:2000 สำหรับบางประเภทบัญชี
    • เปิดโอกาสให้นักลงทุนใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ (แต่มาพร้อมความเสี่ยงสูง)
  3. ความหลากหลายของสินทรัพย์:
    • มีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 12,000 รายการ
    • ครอบคลุมทั้ง Forex, CFDs, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
  4. แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย:
    • MT4, MT5, cTrader, R WebTrader, R StocksTrader
    • รองรับทั้งการเทรดบน PC และอุปกรณ์มือถือ
  5. เงินฝากขั้นต่ำที่เข้าถึงได้ง่าย:
    • เริ่มต้นเพียง $10 สำหรับบัญชีทั่วไป
    • เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเริ่มต้นเทรดได้
  6. โบนัสและโปรโมชั่น:
    • มีโบนัสต้อนรับและโบนัสเงินฝาก
    • เพิ่มโอกาสในการทำกำไรสำหรับนักลงทุน
  7. การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ:
    • ช่วยปกป้องนักลงทุนจากการสูญเสียเงินมากกว่าที่ฝากไว้ในบัญชี
  8. บริการลูกค้า 24/7:
    • ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
    • มีหลายช่องทางในการติดต่อ เช่น โทรศัพท์, ไลฟ์แชท, WhatsApp

ข้อเสีย

  1. การกำกับดูแลจำกัด:
    • ได้รับการกำกับดูแลเพียงหน่วยงานเดียว (FSC เบลีซ)
    • อาจไม่สร้างความมั่นใจเท่ากับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงาน
  2. ข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์:
    • ไม่ให้บริการในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย
  3. เลเวอเรจสูงเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น:
    • เลเวอเรจสูงถึง 1:2000 อาจเป็นอันตรายสำหรับนักลงทุนมือใหม่
  4. ความซับซ้อนของประเภทบัญชี:
    • มีบัญชีให้เลือกหลายประเภท อาจทำให้สับสนสำหรับผู้เริ่มต้น
  5. คะแนนรีวิวจากผู้ใช้งานต่ำ:
    • มีคะแนน 2.8 ดาวจาก 5 ดาวบน Trustpilot
    • อาจสะท้อนถึงปัญหาในการให้บริการหรือความพึงพอใจของลูกค้า
  6. แหล่งความรู้และการศึกษาจำกัด:
    • มีทรัพยากรการเรียนรู้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำอื่นๆ
  7. ไม่มีบริการ Copy Trading:
    • ไม่มีฟีเจอร์ Copy Trading ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักลงทุนมือใหม่
  8. ความเสี่ยงจากการใช้บัญชี Cent:
    • บัญชี ProCent อาจทำให้นักลงทุนประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไป

ใบอนุญาต / การจดทะเบียน

ความปลอดภัย roboforex
ความปลอดภัย roboforex

RoboForex ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานเดียวคือ:

  • Financial Services Commission (FSC) ในประเทศเบลีซ
    • หมายเลขใบอนุญาต: 000138/333

การได้รับใบอนุญาตจาก FSC แสดงให้เห็นว่า RoboForex ปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานและการคุ้มครองลูกค้าในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม FSC เบลีซอาจไม่เป็นที่รู้จักหรือมีมาตรฐานเข้มงวดเท่ากับหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น FCA ของสหราชอาณาจักรหรือ ASIC ของออสเตรเลีย

นอกจากนี้ RoboForex ยังเป็นสมาชิก ‘A’ ของคณะกรรมาธิการการเงิน ซึ่งให้การคุ้มครองลูกค้าสูงสุด 20,000 ยูโร

การจัดเก็บเงินทุนของลูกค้า

ความปลอดภัยสำหรับเงินของลูกค้า roboforex
ความปลอดภัยสำหรับเงินของลูกค้า roboforex

RoboForex ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินทุนของลูกค้า โดยมีมาตรการดังนี้:

  1. การแยกบัญชีลูกค้า:
    • เงินของลูกค้าถูกเก็บแยกจากเงินทุนของบริษัท
    • ใช้บริการของสถาบันการเงินชั้นนำ
  2. การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ:
    • ช่วยปกป้องนักลงทุนจากการสูญเสียเงินมากกว่าที่ฝากไว้ในบัญชี
  3. การประกันภัยความรับผิดทางแพ่ง:
    • มีการประกันภัยวงเงิน 2,500,000 ยูโรสำหรับบัญชีนักลงทุนรายย่อย
    • ครอบคลุมข้อผิดพลาด, การฉ้อโกง, และความเสี่ยงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย
  4. การปฏิบัติตามนโยบาย AML:
    • ปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านการฟอกเงินระหว่างประเทศ

มาตรการเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินทุนของลูกค้าจะได้รับการปกป้องและจัดการอย่างเหมาะสม แม้ในกรณีที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน

การประกันเงินทุน

RoboForex มีการคุ้มครองเงินทุนของลูกค้าในระดับหนึ่ง:

  • การคุ้มครองจากคณะกรรมาธิการการเงิน: สูงสุด 20,000 ยูโรต่อลูกค้า
  • การประกันภัยความรับผิดทางแพ่ง: วงเงิน 2,500,000 ยูโรสำหรับบัญชีนักลงทุนรายย่อย

การประกันเงินทุนนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าเงินของพวกเขาจะได้รับการปกป้องในระดับหนึ่ง แม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าการคุ้มครองนี้อาจไม่ครอบคลุมเท่ากับการคุ้มครองที่ได้รับจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศที่พัฒนาแล้ว

คะแนนรีวิวบน Trustpilot

RoboForex ได้รับคะแนนรีวิวบน Trustpilot ดังนี้:

  • คะแนนเฉลี่ย: 2.8 จาก 5 คะแนน
  • จำนวนผู้รีวิว: ประมาณ 300 รายการ

คะแนนนี้สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามีความคิดเห็นแบ่งแยกเกี่ยวกับบริการของ RoboForex โดยมีทั้งความคิดเห็นเชิงบวกและเชิงลบ:

ความคิดเห็นเชิงบวก:

  • เงื่อนไขการเทรดที่ดี (สเปรดต่ำ, เลเวอเรจสูง)
  • ความหลากหลายของสินทรัพย์ให้เทรด
  • แพลตฟอร์มการเทรดที่มีประสิทธิภาพ

ความคิดเห็นเชิงลบ:

  • ปัญหาในการถอนเงิน
  • การสนับสนุนลูกค้าที่ไม่ดีพอ
  • ความไม่เสถียรของแพลตฟอร์มในบางครั้ง

คะแนนรีวิวที่ไม่สูงนักนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนสำหรับนักลงทุนที่กำลังพิจารณาใช้บริการ RoboForex

ประเภทโบรกเกอร์

RoboForex ดำเนินการในรูปแบบของ ECN (Electronic Communication Network) Broker และ STP (Straight Through Processing) Broker ซึ่งมีลักษณะสำคัญดังนี้:

  1. การส่งคำสั่งซื้อขายโดยตรง:
    • คำสั่งซื้อขายของลูกค้าจะถูกส่งตรงไปยังผู้ให้สภาพคล่องหรือตลาด
    • ช่วยลดความล่าช้าในการดำเนินการและเพิ่มความโปร่งใส
  2. ไม่มีการเทรดกับลูกค้า (No Dealing Desk):
    • RoboForex ไม่เข้ามาเป็นคู่สัญญากับลูกค้าโดยตรง
    • ลดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้า
  3. รายได้จากค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่น:
    • รายได้หลักของโบรกเกอร์มาจากส่วนต่างของราคาเสนอซื้อและเสนอขาย (สเปรด) และค่าคอมมิชชั่น
  4. การเข้าถึงสภาพคล่องจากหลายแหล่ง:
    • เชื่อมต่อกับผู้ให้สภาพคล่องหลายราย ทำให้ได้ราคาที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
  5. ความเร็วในการดำเนินการสูง:
    • คำสั่งซื้อขายถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยระบบอัตโนมัติ

รูปแบบ ECN และ STP นี้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความโปร่งใสและการดำเนินการที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้กลยุทธ์การเทรดแบบ scalping หรือ high-frequency trading

ข้อมูลองค์กรและสำนักงาน

  • ปีก่อตั้ง: 2009
  • สำนักงานใหญ่: เบลีซซิตี้ ประเทศเบลีซ
  • ที่อยู่: 2118 Guava Street, Belama Phase 1, เบลีซซิตี้, เบลีซ
  • การดำเนินงานทั่วโลก: ให้บริการในมากกว่า 169 ประเทศ

การมีสำนักงานในเบลีซและการให้บริการในหลายประเทศแสดงให้เห็นถึงความเป็นสากลของ RoboForex อย่างไรก็ตาม การที่สำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศที่มีการกำกับดูแลที่อาจไม่เข้มงวดเท่าประเทศที่พัฒนาแล้วอาจเป็นประเด็นที่นักลงทุนควรพิจารณา

สินค้าที่สามารถเทรดได้

สินทรัพย์ที่สามารถเลือกเทรดได้ของroboforex
สินทรัพย์ที่สามารถเลือกเทรดได้ของroboforex

RoboForex นำเสนอสินทรัพย์การลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างกัน:

  1. Forex (คู่สกุลเงิน):
    • มีคู่สกุลเงินให้เลือกมากกว่า 36 คู่
    • รวมถึงคู่สกุลเงินหลัก, คู่สกุลเงินรอง, และคู่สกุลเงินแปลก
  2. CFDs บนหุ้น:
    • มีหุ้นให้เลือกเทรดมากกว่า 12,000 รายการ
    • ครอบคลุมบริษัทชั้นนำจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
  3. ดัชนี CFDs:
    • ครอบคลุมดัชนีหลักทั่วโลก
  4. สินค้าโภคภัณฑ์:
    • รวมถึงโลหะมีค่าและน้ำมัน
  5. คริปโตเคอเรนซี:
    • มีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกเทรดประมาณ 33 รายการ
    • รวมถึง Bitcoin, Ethereum และ Altcoins อื่นๆ
  6. หุ้นจริง:
    • สามารถซื้อขายหุ้นจริงได้ผ่านแพลตฟอร์ม R StocksTrader

ความหลากหลายของสินทรัพย์นี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและหาโอกาสในการทำกำไรได้หลากหลายรูปแบบ

Spread, Commission และ Swap

ค่าคอมมิชชั่น roboforex
ค่าคอมมิชชั่น roboforex
  1. ค่า Spread:
    • เริ่มต้นที่ 0 pips สำหรับบัญชี ECN
    • บัญชี Pro และ ProCent: เริ่มต้นที่ 1.3 pips
    • บัญชี Prime และ ECN: เริ่มต้นที่ 0 pips
  2. ค่า Commission:
    • บัญชี Pro, ProCent, Prime: ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
    • บัญชี ECN: อาจมีค่าคอมมิชชั่นขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์
  3. ค่า Swap:
    • มีบัญชีปลอดสวอป (Swap-Free) สำหรับลูกค้าที่ต้องการ
    • อัตราสวอปแตกต่างกันไปตามสกุลเงินและทิศทางการเทรด

ควรระวังว่าค่า Spread และ Swap อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด โดยเฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนสูง

ประเภทบัญชีเทรด

ประเภทบัญชีการของโบรกเกอร์ roboforex
ประเภทบัญชีการของโบรกเกอร์ roboforex

RoboForex มีบัญชีเทรดให้เลือกหลายประเภท:

  1. บัญชี Prime:
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • เลเวอเรจสูงสุด: 1:300
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips
    • เหมาะสำหรับการเทรด Forex และ CFDs
  2. บัญชี ECN:
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips
    • มีค่าคอมมิชชั่น
  3. บัญชี Pro:
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • เลเวอเรจสูงสุด: 1:2000
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
    • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  4. บัญชี ProCent:
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $10
    • เลเวอเรจสูงสุด: 1:2000
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
    • เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์
  5. บัญชี R StocksTrader:
    • เงินฝากขั้นต่ำ: $100
    • เลเวอเรจสูงสุด: 1:300
    • สามารถซื้อขายหุ้นจริงและ CFDs
    • มีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 12,000 รายการ

นอกจากนี้ RoboForex ยังมีบัญชีทดลอง (Demo Account) ให้นักลงทุนได้ทดสอบแพลตฟอร์มและกลยุทธ์การเทรดโดยไม่ต้องใช้เงินจริง

แพลตฟอร์มการเทรด

แพลตฟอร์มการเทรด roboforex
แพลตฟอร์มการเทรด roboforex

RoboForex ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย:

  1. MetaTrader 4 (MT4):
    • แพลตฟอร์มยอดนิยมในวงการ Forex
    • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน
    • รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
  2. MetaTrader 5 (MT5):
    • รุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก MT4
    • มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การเทรดหุ้นและ CFDs
    • รองรับการเทรดหลายสินทรัพย์ในแพลตฟอร์มเดียว
  1. cTrader:
    • แพลตฟอร์มที่เน้นการเทรด ECN
    • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ก้าวหน้า
    • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
  2. R WebTrader:
    • แพลตฟอร์มเว็บเทรดที่พัฒนาโดย RoboForex
    • ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
    • สามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์
  3. R StocksTrader:
    • แพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายหุ้นและ CFDs
    • มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากกว่า 12,000 รายการ
    • สามารถซื้อขายหุ้นจริงได้

ทั้งห้าแพลตฟอร์มรองรับการใช้งานบน PC และอุปกรณ์เคลื่อนที่ (iOS และ Android) ทำให้นักลงทุนสามารถเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา ความหลากหลายของแพลตฟอร์มนี้เป็นจุดแข็งของ RoboForex ที่ตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์

การฝาก-ถอนเงิน

ช่องทางการฝากถอน roboforex
ช่องทางการฝากถอน roboforex
ช่องทางการฝากถอนเงิน roboforex
ช่องทางการฝากถอนเงิน roboforex

RoboForex มีช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลายเพื่อความสะดวกของลูกค้า:

วิธีการฝากเงิน:

  1. บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard)
  2. การโอนเงินผ่านธนาคาร
  3. E-wallets (Skrill, Neteller, PerfectMoney)
  4. Google Pay
  5. ApplePay
  6. AstroPay
  7. Cryptocurrency
  8. China UnionPay

ข้อมูลสำคัญ:

  • เงินฝากขั้นต่ำ: $10 สำหรับบัญชีทั่วไป, $100 สำหรับบัญชี R StocksTrader
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน (ยกเว้นค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดจากธนาคารหรือผู้ให้บริการของคุณ)
  • การฝากเงินส่วนใหญ่จะเข้าบัญชีทันที

การถอนเงิน:

  • วิธีการถอนเงินส่วนใหญ่เหมือนกับวิธีการฝากเงิน
  • ระยะเวลาในการดำเนินการถอนเงินอาจใช้เวลา 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับวิธีการถอนเงิน
  • อาจมีค่าธรรมเนียมการถอนเงินสำหรับบางวิธี

ข้อควรระวัง:

  • การถอนเงินบางครั้งอาจใช้เวลานานถึง 10 วันสำหรับบางวิธีการ เช่น บัตรเครดิต/เดบิต
  • ควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมและระยะเวลาดำเนินการสำหรับแต่ละวิธีก่อนทำการถอนเงิน

ความหลากหลายของวิธีการฝากและถอนเงินเป็นข้อดีของ RoboForex แต่นักลงทุนควรระมัดระวังเรื่องระยะเวลาในการดำเนินการและค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้น

รางวัลที่ได้รับ

รางวัล roboforex
รางวัล roboforex

RoboForex ได้รับรางวัลจากหลายสถาบันที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการยืนยันถึงคุณภาพการให้บริการของพวกเขา:

  1. ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมมากกว่า 30 รางวัล (ไม่ได้ระบุรายละเอียดเฉพาะในข้อมูลที่ให้มา)
  2. เป็นผู้สนับสนุนของ Club Cienciano (ทีมฟุตบอลในเปรู)

การได้รับรางวัลเหล่านี้เป็นการยืนยันถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพการให้บริการของ RoboForex ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ประสบการณ์การใช้งานจริง และความเหมาะสมกับรูปแบบการเทรดของตนเอง

โบนัสและโปรโมชั่น

roboforex โบนัสต้อนรับ 30 usd
roboforex โบนัสต้อนรับ 30 usd
roboforex บัญชีที่ได้โบนัส 30 usd
roboforex บัญชีที่ได้โบนัส 30 usd

RoboForex มีโบนัสและโปรโมชั่นหลายรายการเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า:

  1. โบนัสต้อนรับ:
    • รับโบนัส $30 สำหรับการเปิดบัญชี ProCent หรือ Pro
    • ไม่สามารถใช้ได้กับบัญชีประเภทอื่น
  2. โบนัสคลาสสิก:
    • รับเงินเพิ่มสูงสุด 120% สำหรับการฝากเงินครั้งแรกและครั้งต่อไป
    • สำหรับบัญชี Pro และ ProCent เท่านั้น
  3. โบนัสส่วนแบ่งกำไร:
    • เพิ่มเงินฝากได้สูงสุด 60% สำหรับการฝากครั้งแรกและครั้งต่อไป
    • สำหรับบัญชี Pro และ ProCent เท่านั้น

ข้อควรระวัง: โบนัสและโปรโมชั่นมักมีเงื่อนไขและข้อกำหนดเฉพาะ นักลงทุนควรอ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขอย่างละเอียดก่อนเข้าร่วมโปรโมชั่นใดๆ

ฝ่ายบริการลูกค้า

RoboForex ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า โดยมีช่องทางการติดต่อและการสนับสนุนที่หลากหลาย:

  1. Live Chat:
    • ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
    • เหมาะสำหรับคำถามทั่วไปและการแก้ปัญหาเร่งด่วน
  2. โทรศัพท์:
    • มีหมายเลขโทรศัพท์ระหว่างประเทศสำหรับติดต่อโดยตรง
    • ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
  3. แบบฟอร์มติดต่อ:
    • สามารถส่งข้อความผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ได้
  4. สื่อสังคมออนไลน์:
    • สามารถติดต่อผ่าน WhatsApp, Facebook Messenger, และ Telegram
  5. บริการโทรกลับ:
    • สามารถขอให้เจ้าหน้าที่โทรกลับได้
  6. ภาษาที่ให้บริการ:
    • ให้บริการในภาษาอังกฤษเป็นหลัก
    • อาจมีการสนับสนุนในภาษาอื่นๆ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนในข้อมูลที่ให้มา

การให้บริการลูกค้าตลอด 24/7 และมีหลายช่องทางในการติดต่อเป็นจุดแข็งของ RoboForex อย่างไรก็ตาม จากคะแนนรีวิวบน Trustpilot ที่ไม่สูงนัก อาจสะท้อนถึงปัญหาในการให้บริการลูกค้าในบางกรณี

สรุปภาพรวม

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรม Forex และ CFD โดยมีจุดเด่นและข้อควรพิจารณาดังนี้:

จุดเด่น:

  1. ค่าสเปรดต่ำ เริ่มต้นที่ 0 pips สำหรับบางประเภทบัญชี
  2. เลเวอเรจสูง สูงสุดถึง 1:2000
  3. มีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 12,000 รายการ
  4. แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
  5. เงินฝากขั้นต่ำที่เข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นที่ $10
  6. มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
  7. การบริการลูกค้า 24/7 ผ่านหลายช่องทาง

ข้อควรพิจารณา:

  1. ได้รับการกำกับดูแลเพียงหน่วยงานเดียว (FSC เบลีซ)
  2. คะแนนรีวิวจากผู้ใช้งานค่อนข้างต่ำบน Trustpilot
  3. มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ ไม่ให้บริการในบางประเทศ
  4. เลเวอเรจสูงอาจเป็นอันตรายสำหรับนักลงทุนมือใหม่
  5. ความซับซ้อนของประเภทบัญชีอาจทำให้สับสน
  6. แหล่งความรู้และการศึกษามีจำกัด