Weltrade เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในประเทศไทย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Weltrade อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าโบรกเกอร์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ก่อตั้ง | 2006 |
ใบอนุญาต | FSCA (แอฟริกาใต้), FSA (เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์) |
ประเภทโบรกเกอร์ | Forex และ CFD |
สินทรัพย์ | Forex, CFDs, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, โลหะ |
แพลตฟอร์ม | MetaTrader 4, MetaTrader 5, เว็บเทอร์มินัล |
บัญชีขั้นต่ำ | $1 |
สเปรดเริ่มต้น | 0 pips (บัญชี Universe) |
เลเวอเรจสูงสุด | 1:1000 |
ภาษาที่รองรับ | 12 ภาษา (รวมภาษาไทย) |
Weltrade คืออะไร?
Weltrade เป็นแบรนด์การค้าของบริษัท Systemgates Ltd. ซึ่งจดทะเบียนในประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ โบรกเกอร์นี้ให้บริการมากว่า 16 ปี และอ้างว่ามีผู้ใช้งานกว่า 600,000 คนใน 180 ประเทศทั่วโลก
Weltrade ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานสำคัญ ได้แก่:
- Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ของแอฟริกาใต้
- Financial Services Authority (FSA) ของเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
การกำกับดูแลโดยหน่วยงานเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในแง่ของความโปร่งใสและความปลอดภัยของเงินทุน อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่าหน่วยงานกำกับดูแลเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับหน่วยงานอย่าง FCA ของสหราชอาณาจักรหรือ ASIC ของออสเตรเลีย
ประวัติและพัฒนาการ
ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา Weltrade ได้พัฒนาบริการและขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีเหตุการณ์สำคัญดังนี้:
- 2006: ก่อตั้งบริษัทในประเทศเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
- 2009: เปิดตัวแพลตฟอร์ม MetaTrader 4
- 2012: ขยายบริการสู่ตลาดเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
- 2015: ได้รับรางวัล “Best Affiliate Program” จาก Forex Expo Awards
- 2018: เปิดตัวแพลตฟอร์ม MetaTrader 5
- 2021: ฉลองครบรอบ 15 ปีและมีลูกค้ามากกว่า 500,000 ราย
การเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองความต้องการของลูกค้าของ Weltrade
Weltrade ดีไหม
ข้อดี
- มีสภาวะการเทรดที่ดี เช่น สเปรดต่ำและเลเวอเรจสูง
- สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips สำหรับบัญชี Universe
- เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 สำหรับบางประเภทบัญชี
- มีบัญชีเทรดให้บริการหลายประเภท
- เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพ
- มีบัญชีทดลองให้ทดสอบก่อนลงทุนจริง
- สามารถเข้าถึงสินทรัพย์การเทรดที่หลากหลาย
- Forex, CFDs, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, โลหะ และตราสารดิจิทัล
- มีโปรโมชั่นและการแข่งขันที่น่าสนใจ
- โบนัสเงินฝาก, การแข่งขันเทรดประจำ, และโปรแกรมพันธมิตร
- รองรับหลายภาษารวมถึงภาษาไทย
- เว็บไซต์และบริการลูกค้าให้บริการในภาษาไทย
ข้อเสีย
- ไม่มีบริการ Copy Trading
- อาจเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
- ไม่รองรับการใช้งานบนแอพมือถือ
- มีเพียงเว็บเทอร์มินัลสำหรับการเทรดบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- ไม่รับเทรดเดอร์จากบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหภาพยุโรป
- อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนในประเทศเหล่านี้
- การกำกับดูแลไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุด
- หน่วยงานกำกับดูแลอาจไม่เข้มงวดเท่ากับบางประเทศ
สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้
Weltrade มีสินทรัพย์ที่เทรดได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี:
- Forex:
- 37-47 คู่สกุลเงิน
- รวมคู่สกุลเงินหลัก, คู่สกุลเงินรอง, และคู่สกุลเงินแปลก
- โลหะ:
- 2-4 คู่
- รวมถึงทองคำ (XAUUSD) และเงิน (XAGUSD)
- ดัชนี CFDs:
- 14 คู่
- ครอบคลุมดัชนีหลักทั่วโลก เช่น S&P 500, NASDAQ, DAX
- หุ้น CFDs:
- 214 คู่
- หุ้นของบริษัทชั้นนำจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
- สินค้าโภคภัณฑ์:
- 2 คู่
- รวมถึงน้ำมันดิบ
- ตราสารดิจิทัล:
- 39 คู่ (เฉพาะบัญชี Digital)
- รวมถึง Bitcoin, Ethereum, และ Altcoins อื่นๆ
ความหลากหลายของสินทรัพย์นี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและหาโอกาสในการทำกำไรได้หลากหลายรูปแบบ
แพลตฟอร์มการเทรด
Weltrade ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพ:
- MetaTrader 4 (MT4)
- แพลตฟอร์มยอดนิยมในวงการ Forex
- มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน
- รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
- MetaTrader 5 (MT5)
- รุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก MT4
- มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การเทรดหุ้นและ CFDs
- รองรับการเทรดหลายสินทรัพย์ในแพลตฟอร์มเดียว
- เว็บเทอร์มินัล
- ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์
- เหมาะสำหรับการเทรดบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- มีฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วนสำหรับการเทรด
ทั้งสามแพลตฟอร์มรองรับการใช้งานบน PC และเว็บเบราว์เซอร์ แต่ยังไม่มีแอพพลิเคชันมือถือโดยตรง ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความคล่องตัวในการเทรด
ประเภทบัญชีและเงื่อนไขการเทรด
Weltrade มีบัญชี 4 ประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลาย:
- บัญชี Micro
- เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่มีเงินทุนน้อย
- เงินฝากขั้นต่ำ: $1
- เลเวอเรจ: 1:33 – 1:1000
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 1.5 pips
- สินทรัพย์: Forex 47 คู่สกุลเงิน และ โลหะ 2 คู่
- บัญชี Premium
- เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ระดับกลาง
- เงินฝากขั้นต่ำ: $25
- เลเวอเรจ: 1:33 – 1:1000
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 1.5 pips
- สินทรัพย์: Forex 37 คู่สกุลเงิน, โลหะ 4 คู่, ดัชนี CFDs 14 คู่, หุ้น CFDs 214 คู่, สินค้าโภคภัณฑ์ 2 คู่
- บัญชี Pro
- เหมาะสำหรับนักลงทุนมืออาชีพที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
- เงินฝากขั้นต่ำ: $100
- เลเวอเรจ: 1:1 – 1:1000
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.5 pips
- สินทรัพย์: เหมือนกับบัญชี Premium แต่มีสเปรดที่แคบกว่า
- บัญชี Digital
- ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการเทรดสกุลเงินดิจิทัล
- เงินฝากขั้นต่ำ: $50
- เลเวอเรจ: 1:3 – 1:100
- สเปรด: เริ่มต้นที่ 0 pips
- สินทรัพย์: ตราสารดิจิทัล 39 คู่
นอกจากนี้ Weltrade ยังมีบัญชีทดลอง (Demo Account) ให้นักลงทุนได้ทดลองใช้งานแพลตฟอร์มและทดสอบกลยุทธ์การเทรดโดยไม่ต้องใช้เงินจริง
ความหลากหลายของประเภทบัญชีนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกบัญชีที่เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดและระดับประสบการณ์ของตนเองได้ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมของแต่ละบัญชีอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี
การฝาก-ถอนเงิน
Weltrade รองรับวิธีการฝากและถอนเงินหลายรูปแบบ เพื่อความสะดวกของลูกค้า:
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
- รวมถึงธนาคารในประเทศไทย เช่น กสิกรไทย, กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
- ระยะเวลาดำเนินการ: 1-3 วันทำการ
- บัตรเครดิต/เดบิต
- รองรับ Visa และ MasterCard
- ฝากเงินได้ทันที
- อาจมีค่าธรรมเนียมประมาณ 2.5% ขึ้นอยู่กับประเภทบัตรและประเทศ
- E-wallets
- Skrill, Neteller
- ฝากเงินและถอนเงินได้รวดเร็ว
- ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ E-wallet
- Perfect Money
- ระบบชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรด Forex
- ฝากเงินและถอนเงินได้รวดเร็ว
- Cryptocurrency
- รองรับการฝากและถอนด้วย Bitcoin และ Ethereum
- ระยะเวลาดำเนินการขึ้นอยู่กับความเร็วของเครือข่าย Blockchain
การฝากเงินส่วนใหญ่ไม่มีค่าธรรมเนียม ส่วนการถอนเงินอาจมีค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 0% ถึง 1.9% ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เลือกใช้ ระยะเวลาในการดำเนินการถอนเงินอาจใช้เวลา 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับวิธีการถอนเงินที่เลือก
ข้อควรระวัง: มีค่าธรรมเนียม 30 USD สำหรับการถอนเงินต่ำกว่า 50 USD ดังนั้นนักลงทุนควรวางแผนการถอนเงินให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมนี้
ความปลอดภัยและการคุ้มครอง
Weltrade ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินทุนและข้อมูลของลูกค้า โดยมีมาตรการต่างๆ ดังนี้:
- การป้องกันบัญชีติดลบ (Negative Balance Protection)
- ช่วยปกป้องเทรดเดอร์จากการสูญเสียเงินมากกว่าที่ฝากไว้ในบัญชี
- หากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้บัญชีติดลบ Weltrade จะรีเซ็ตยอดคงเหลือเป็นศูนย์
- การเข้ารหัสข้อมูล
- ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัส SSL 256 บิตเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและธุรกรรมทางการเงิน
- การแยกบัญชีลูกค้า
- เงินของลูกค้าถูกเก็บแยกจากบัญชีของบริษัท เพื่อป้องกันการนำเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
- การยืนยันตัวตน
- มีกระบวนการ KYC (Know Your Customer) ที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการฉ้อโกงและการฟอกเงิน
- การติดตามธุรกรรม
- มีระบบติดตามธุรกรรมที่ผิดปกติเพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต
แม้ว่า Weltrade จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม แต่นักลงทุนควรระมัดระวังและปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยส่วนบุคคล เช่น การใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและการเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA) เมื่อมีให้บริการ
บริการลูกค้า
Weltrade ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า โดยมีช่องทางการติดต่อและการสนับสนุนที่หลากหลาย:
- Live Chat
- ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
- เหมาะสำหรับคำถามทั่วไปและการแก้ปัญหาเร่งด่วน
- อีเมล
- สำหรับคำถามที่ต้องการรายละเอียดมากขึ้นหรือการส่งเอกสาร
- ระยะเวลาตอบกลับโดยเฉลี่ย 24-48 ชั่วโมง
- โทรศัพท์
- มีหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อโดยตรง
- ให้บริการในวันและเวลาทำการ
- สื่อสังคมออนไลน์
- มีช่องทางการติดต่อผ่าน Facebook และ Twitter
- ใช้สำหรับการอัพเดทข่าวสารและการติดต่อทั่วไป
บริการลูกค้ามีให้ใน 12 ภาษา รวมถึงภาษาไทย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุนชาวไทยที่อาจไม่สะดวกในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ Weltrade ยังมีส่วนของ FAQ และบทความให้ความรู้บนเว็บไซต์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถหาคำตอบสำหรับคำถามทั่วไปได้ด้วยตนเอง
โปรโมชั่นและโบนัส
Weltrade มีโปรโมชั่นและโบนัสที่น่าสนใจหลายรายการ เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า:
- โบนัสเงินฝากแรก
- รับโบนัสสูงสุด 30% สำหรับการฝากเงินครั้งแรก
- มีเงื่อนไขในการทำยอดเทรดเพื่อถอนโบนัส
- โปรแกรมพันธมิตร (Affiliate Program)
- รับค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำลูกค้าใหม่
- มีโครงสร้างค่าคอมมิชชั่นแบบหลายระดับ
- การแข่งขันเทรด
- จัดการแข่งขันเทรดเป็นประจำ
- มีรางวัลเป็นเงินสดและของรางวัลอื่นๆ
- Cashback
- รับเงินคืนจากค่าสเปรดหรือค่าคอมมิชชั่น
- อัตรา Cashback ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและปริมาณการเทรด
- No Deposit Bonus
- รับโบนัสเพื่อเริ่มต้นเทรดโดยไม่ต้องฝากเงิน (มีให้เป็นบางช่วง)
- มีเงื่อนไขในการถอนกำไรที่ได้จากโบนัส
ควรศึกษาเงื่อนไขของแต่ละโปรโมชั่นอย่างละเอียด เนื่องจากมักมีข้อกำหนดเกี่ยวกับปริมาณการเทรดหรือระยะเวลาในการใช้งานโบนัส
สรุป: Weltrade ดีไหม?
Weltrade เป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ยาวนาน นำเสนอบริการที่ครอบคลุมสำหรับนักเทรด Forex และ CFD โดยมีจุดเด่นและข้อควรพิจารณาดังนี้:
จุดเด่น:
- มีสภาวะการเทรดที่ดี เช่น สเปรดต่ำและเลเวอเรจสูง
- มีบัญชีเทรดให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับนักลงทุนทุกระดับ
- รองรับการเทรดสินทรัพย์ที่หลากหลาย
- มีแพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพ
- รองรับภาษาไทยทั้งเว็บไซต์และบริการลูกค้า
- มีโปรโมชั่นและโบนัสที่น่าสนใจ
ข้อควรพิจารณา:
- ไม่มีบริการ Copy Trading
- ไม่รองรับการใช้งานบนแอพมือถือโดยตรง
- ไม่รับเทรดเดอร์จากบางประเทศ
- การกำกับดูแลไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์บางราย
โดยสรุป Weltrade เป็นโบรกเกอร์ที่มีศักยภาพสูงสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความหลากหลายในการลงทุนและความน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย และนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดที่ดี
Forexpug นักเขียนมือปืนรับจ้างเขียนบทความให้เว็บส่วนใหญ่ในโลก Forex จนน้องปั๊กสนใจ Forex ขึ้นมาจริง ๆ และอยากจะศึกษาไปด้วย เขียนบทความบนเว็บของตัวเองไปด้วยค่ะ และนี่คือเว็บของหนูหล่ะ คอยดู๊!!! หนูจะวิ่งให้ไกลเล๊ยย