รีวิวโบรกเกอร์ Pepperstone ดีไหม สมัครเปิดบัญชี ฝากถอน

โบรกเกอร์ Pepperstone นิยมให้ความสำคัญกับลูกค้าไทยเป็นพิเศษ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ในไทยและมีทีมงานคนไทยคอยให้บริการอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับนักเทรดชาวไทยที่ต้องการเทรด Forex กับโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ

Pepperstone คืออะไร?

ตอบ: Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ (Broker) ประเภท Forex ซึ่งให้บริการเทรดเงินตราต่างประเทศ โดยก่อตั้งและจดทะเบียนอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำที่ให้บริการมาอย่างยาวนานและมีชื่อเสียงดีเยี่ยม โดยมีจุดเด่นสำคัญดังนี้

Pepperstone มีจุดเด่นในเรื่องค่าสเปรดที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น ระบบการเทรดที่รวดเร็วและเสถียร รวมทั้งมีแพลตฟอร์มและบริการที่หลากหลายให้เลือกใช้ เช่น MT4, MT5, cTrader, การเทรดผ่าน TradingView เป็นต้น

• มีค่าสเปรด (Spread) ที่ต่ำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อขายทองคำ (XAUUSD) ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการเทรดได้อย่างมาก
• เป็นโบรกเกอร์ที่มีมาตรฐานสูงและได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยการจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำหลายแห่ง สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของเงินทุน
• มีระบบการซื้อขายที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างฉับไวและแม่นยำ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรด
• มีทีมบริการลูกค้าที่พูดภาษาไทยได้ พร้อมให้ความช่วยเหลือและตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สะดวกต่อการใช้งานสำหรับนักลงทุนชาวไทย
• ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ Pepperstone จึงเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนฟอเร็กซ์ทุกระดับ

Pepperstone ดีไหม?

Pepperstone นับเป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสำหรับนักเทรด Forex โดยเฉพาะคนไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีข้อดีและข้อเด่นหลายประการ จึงค่อนข้างน่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการเทรด Forex ด้วยต้นทุนต่ำและคุณภาพสูง

โบรกเกอร์ Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูงเนื่องจากออสเตรเลียมีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการกำกับดูแลธุรกิจโบรกเกอร์ โดย Pepperstone ได้รับการจัดอันดับให้เป็นโบรกเกอร์ที่มีค่า Spread ต่ำที่สุด (อยู่ที่ประมาณ 0.7-1 pips ในคู่สกุลเงินหลัก) และเป็นอันดับ 2 ในด้านความมั่นคงและน่าเชื่อถือ

ความน่าสนใจของ Pepperstone ได้แก่:

• ความรวดเร็วในการเปิดปิดออเดอร์ ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่มีเสถียรภาพสูง
• กราฟมีความแม่นยำ พร้อมบริการ VPS ฟรี
• รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย ทั้ง MT4, MT5, cTrader และ cAlgo สำหรับสร้างระบบเทรดอัตโนมัติ
• สามารถเทรดผ่าน TradingView ได้แล้วในปัจจุบัน
• เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทรด EA
• มีทีมงานคนไทยให้บริการผ่าน Live chat ในวันและเวลาทำการ

นอกจากนี้ Pepperstone ยังมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการบริการลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลอัพเดทว่าทางโบรกเกอร์ได้ยกเลิกการใช้ Webmoney ในการทำธุรกรรมแล้ว และสำหรับการถอนเงินผ่านธนาคารไทยในครั้งแรก จะต้องส่งหน้าสมุดบัญชีธนาคารเพื่อยืนยันตัวตนมาที่อีเมล [email protected] ก่อน

โดยสรุป Pepperstone นับเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและบริการ พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่เทรดเดอร์ชาวไทยด้วยทีมงานคนไทย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเทรด Forex ด้วยต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูง

ข้อมูลโบรกเกอร์ Pepperstone

• บริษัท Pepperstone Group Limited
• ประเภทบริษัท: เอกชน
• อุตสาหกรรม: บริการทางการเงิน
• ก่อตั้งเมื่อ: ปี 2010
• สำนักงานใหญ่: นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
• บุคคลสำคัญ:
  • Tamas Szabo (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)
  • Robert Bowen

ข้อมูลสำคัญของบริษัท Pepperstone Group Limited

• Robert Bowen ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer หรือ COO) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานประจำวันของบริษัท
• บริการของ Pepperstone ได้แก่ การให้ลูกค้าเข้าถึงตลาดการเงิน, เป็นนายหน้าซื้อขายฟอเร็กซ์, ให้บริการแพลตฟอร์มเทรดยอดนิยมอย่าง MetaTrader 4 และ cTrader รวมถึงให้บริการซื้อขายสัญญาส่วนต่าง (CFDs)
• ในปีงบประมาณ 2024 บริษัทมีรายได้ 17,920 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรจากการดำเนินงาน 23,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 12,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่สูงมาก
• สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 22,730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าของส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขนาดและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
• Pepperstone มีพนักงานทั้งหมด 2,900 คนในปีงบประมาณ 2024 ซึ่งนับเป็นองค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้
• เว็บไซต์หลักของบริษัทคือ com ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการให้ข้อมูล ข่าวสาร และบริการแก่ลูกค้า

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของ Pepperstone ในฐานะบริษัทชั้นนำในตลาดฟอเร็กซ์และสัญญาส่วนต่าง ที่มีความมั่นคงทางการเงิน มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และให้บริการที่หลากหลายแก่นักลงทุนทั่วโลก

ข้อดีของ Pepperstone

• มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการกำกับดูแลโบรกเกอร์ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความน่าเชื่อถือ
• มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งสะดวกสำหรับลูกค้าชาวไทยที่ต้องการติดต่อหรือสอบถามข้อมูล
• ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำระดับโลก ได้แก่ ASIC (ออสเตรเลีย) และ FCA (สหราชอาณาจักร)
• มีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ 1 USD ซึ่งต่ำมาก ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย
• มีค่าสเปรดต่ำในคู่สกุลเงินหลัก ช่วยลดต้นทุนในการเทรด
• ระบบเซิร์ฟเวอร์มีเสถียรภาพสูง ทำให้การซื้อขายราบรื่นและมีความผิดพลาดน้อย
• การเปิดและปิดออร์เดอร์มีความรวดเร็วมาก ช่วยให้นักลงทุนสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ตลาดได้ทันท่วงที
• ไม่มีการรีโควตราคา (Requote) ระหว่างการเทรด จึงไม่เกิดปัญหาในการส่งคำสั่งซื้อขาย
• รองรับการฝากเงินผ่านระบบ PayPal อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน
• มีระบบ Copy Trade ให้เลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการหลายราย ช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถเรียนรู้และทำกำไรจากการลอกเทรดของมืออาชีพได้
• มีแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย ทั้ง MT4, MT5 และ cTrader โดยรองรับการใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ มือถือ และบนเว็บไซต์
• ให้บริการ VPS โฮสติ้งฟรี ซึ่งมีประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ
• มีโปรแกรม Active Trader สำหรับนักลงทุนที่มีปริมาณการเทรดสูง ซึ่งมอบสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ
• รองรับการฝากและถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าชาวไทย

ข้อเสียของ Pepperstone

• ใช้ระยะเวลาในการถอนเงินค่อนข้างนาน ประมาณ 1-3 วันทำการ
• ไม่มีระบบฝากเงินด้วย QR Code ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับลูกค้าชาวไทย
• มีโปรโมชั่นและโบนัสน้อยมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น
• ขั้นตอนในการถอนเงินค่อนข้างยุ่งยากและมีความซับซ้อน
• ขั้นตอนในการเปิดบัญชีและสมัครใช้งานมีความยุ่งยากและใช้เวลานาน

รีวิวข้อมูลเชิงลึก โบรกเกอร์ Pepperstone

• ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 โดย Owen Kerr และ Joe Davenport มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
• เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ชั้นนำในการให้บริการเทรด CFD และ Forex โดยเติบโตและมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว
• ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจาก ASIC ของออสเตรเลีย, FCA ของสหราชอาณาจักร, CySEC ของไซปรัส, DFSA ของดูไบ, CMA ของเคนยา, SCB ของบาฮามาส และ BaFin ของเยอรมนี ซึ่งสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน
• มีแพลตฟอร์มให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ Ctrader, MetaTrader 4, MetaTrader 5, TradingView และ ai
• มีบริการพิเศษสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่เรียกว่า “Razor Account”
• มีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง และให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าเป็นพิเศษ
• ได้รับรางวัล Best Forex Broker จาก com Broker Awards ในปี 2021
• ได้รับรางวัล Best MT4 Broker จาก The Good Money Guide Awards ในปี 2023
• มียอดรายได้ 17,920 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และมีพนักงานกว่า 2,900 คน
• เป็นผู้สนับสนุนหลักของ ATP (Association of Tennis Professionals) ในปี 2022-2024 โดยมีสิทธิ์ตั้งชื่ออันดับนักเทนนิสอย่างเป็นทางการ
• ผู้ก่อตั้ง Owen Kerr และ Joe Davenport ได้รับรางวัล Australian EY Entrepreneurs of the Year ในปี 2014
• ในปี 2013 Pepperstone ได้ช่วยเหลือ ASIC และตำรวจสอบสวนกลางออสเตรเลีย เปิดเผยคดีซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงใน ซึ่งเป็นคดีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย
• เคยอยู่ในอันดับ 1 ของ BRW Fast Starters ในปี 2014 ด้วยรายได้ 60 ล้านเหรียญสหรัฐและอัตราการเติบโต 66%
• เคยหยุดรับลูกค้าชาวญี่ปุ่นชั่วคราวในปี 2014 เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตจาก Financial Services Agency ของญี่ปุ่น
• ขายกิจการเกือบทั้งหมดให้กับ Champ Private Equity ในปี 2016 ก่อนที่จะซื้อคืนหุ้นในอีก 2 ปีครึ่งต่อมา

ความน่าเชื่อถือ และ ใบอนุญาต Pepperstone

Pepperstone ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการเงินชั้นนำทั่วโลก ดังนี้

• ASIC (ออสเตรเลีย): Pepperstone Group Limited, ACN 147 055 703
• FCA (สหราชอาณาจักร): Pepperstone Limited, ใบอนุญาตเลขที่ 684312
• CySEC (ไซปรัส): Pepperstone EU Limited, ใบอนุญาตเลขที่ 388/20
• SCB (บาฮามาส): Pepperstone Markets Limited, ใบอนุญาตเลขที่ SIA-F217
• CMA (เคนยา): Pepperstone Markets Kenya Limited, ใบอนุญาตเลขที่ 128
• BaFin (เยอรมนี): Pepperstone GmbH, ใบอนุญาตเลขที่ 151148
• DFSA (ดูไบ): Pepperstone Financial Services (DIFC) Limited, ใบอนุญาตเลขที่ F004356

การจัดเก็บเงินทุนของลูกค้า Pepperstone

• โปรดทราบว่าลูกค้าในประเทศไทยจะอยู่ภายใต้ใบอนุญาต ASIC และ SCB
• บริษัทมีการแยกจัดเก็บเงินทุนของลูกค้า ไว้ที่ธนาคารชั้นนำระดับโลก
• ลูกค้าภายใต้ใบอนุญาต ASIC เงินทุนจะเก็บอยู่ที่ธนาคาร National Australia Bank
• ลูกค้าภายใต้ใบอนุญาต SCB เงินทุนจะเก็บอยู่ที่ธนาคาร Barclays Bank ประเทศอังกฤษ

แพลตฟอร์มการซื้อขายและเครื่องมือ Pepperstone

Pepperstone นำเสนอแพลตฟอร์มการซื้อขายชั้นนำในอุตสาหกรรม ได้แก่ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของเทรดเดอร์ที่หลากหลาย โดยมีรายละเอียดดังนี้

MT4 และ MT5

• โดดเด่นในด้านเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครอบคลุม รวมถึงสามารถใช้งานระบบเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisors) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการปรับแต่งกลยุทธ์การเทรดของตนเอง

cTrader

• โดดเด่นด้วยอินเตอร์เฟซที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และแสดงข้อมูลความลึกของตลาด (Market Depth) ได้อย่างละเอียด
• เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ Pepperstone ยังมีเครื่องมือเสริมต่างๆ เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจลงทุนได้แม่นยำยิ่งขึ้น ได้แก่

• Smart Trader Tools: ชุดเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ ติดตามสถานะ และจัดการความเสี่ยง
• Autochartist: ระบบวิเคราะห์กราฟราคาอัตโนมัติ ที่สามารถแจ้งเตือนโอกาสในการเทรด
• API Trading: ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการซื้อขายเข้ากับซอฟต์แวร์ภายนอกได้

เครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและระบบซื้อขายอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยตัวเลือกของแพลตฟอร์มและเครื่องมือเทรดที่หลากหลายนี้ ทำให้ Pepperstone ตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์แต่ละประเภทได้อย่างครอบคลุม ซึ่งนับเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ Pepperstone เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำในตลาด

สินค้าและหลักทรัพย์

• Pepperstone ให้บริการตราสารที่สามารถซื้อขายได้มากมาย
• รวมถึงฟอเร็กซ์ ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินดิจิทัล และหุ้น CFD
• ข้อเสนอฟอเร็กซ์ประกอบด้วยคู่สกุลเงินมากกว่า 60 คู่ ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสที่จะกระจายพอร์ตการลงทุนของตน

บัญชีเทรดของ Pepperstone

มี 2 ประเภทหลัก ได้แก่

• มีทั้งบัญชีแบบประหยัดค่าใช้จ่าย (Standard) และบัญชีสเปรดต่ำสุด (Razor)
• ความแตกต่างหลักอยู่ที่ค่าสเปรดเริ่มต้นและการคิดค่าคอมมิชชั่น
• ระดับ Leverage สูงสุดที่ได้รับขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของลูกค้าและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

บัญชี Standard

• ค่าสเปรดเริ่มต้น: 1 pip
• ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
• มีการคิดค่าสวอป

บัญชี Razor

• ค่าสเปรดเริ่มต้น: 0 pip
• ค่าคอมมิชชั่น:
  • MT4, MT5, TradingView: $7 ต่อ 1 ล็อต
  • cTrader: $6 ต่อ 1 ล็อต
• ไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายทองคำ (XAU) ยกเว้นใน MT5 Razor ที่คิด $7
• มีการคิดค่าสวอป

Leverage

• ระดับสูงสุดขึ้นอยู่กับประเภทลูกค้าและข้อจำกัดตามใบอนุญาตในแต่ละพื้นที่
• สอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขการอัปเกรดเป็นลูกค้า Pro ได้จากเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า

ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น

• Pepperstone มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ โดยมีบัญชีหลักสองประเภท ได้แก่ บัญชี Standard และบัญชี Razor บัญชีมาตรฐานไม่มีค่าคอมมิชชั่นโดยมีสเปรดกว้างกว่าเล็กน้อย ในขณะที่บัญชี Razor คิดค่าคอมมิชชั่นแต่มีสเปรดดิบที่เริ่มต้นที่ 0 pips

ฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทย

• นอกเวลาทำการติดต่อเป็นภาษาอังกฤษได้ที่ +1786 628 1209
• สามารถติดต่อได้ทาง Live Chat บนเว็บไซต์
• เวลาทำการ: 00 – 21.00 น. (วันจันทร์ถึงศุกร์)
• เวลาทำการ: 00 – 18.00 น. (วันหยุดนักขัตฤกษ์)
• นอกเวลาทำการสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตเป็นภาษาอังกฤษ
• Live Chat ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
• Pepperstone Thai Support
• ประเทศไทย โทร. 02-150-0576
• Live Chat: Live Chat
• Email: [email protected]
• Website: pepperstone.com
• Line Official ID: @PepperstoneTH
• Facebook: facebook.com/pepperstonefxth

ช่องทางการฝากถอน

• รองรับการฝากถอนผ่านธนาคารไทย, และสามารถทำรายการได้รวดเร็ว
• QR Code – รองรับทุกธนาคารไทย
• Internet Banking – ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ช่องทางอื่นๆที่รองรับ

• Cryptocurrency
• Paypal
• Neteller
• Skrill
• International Bank Transfer/ BankWire

USDT ช่องทางฝากถอนใหม่ของ Pepperstone

แนะนำช่องทางการฝากถอนได้เงินเร็ว

ช่องทางการฝาก-ถอนเงิน	รายละเอียด
1. ธนาคารภา ยในประเทศ (QR Payment)	การฝากเงิน: เข้าทันที ขั้นต่ำ $20 สูงสุดไม่เกิน $50000 ต่อครั้ง สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันของทุกธนาคารในประเทศไทย การถอนเงิน: ดำเนินการ 1-2 วันทำการ ขั้นต่ำ $20 สูงสุดไม่เกิน $25000 ต่อครั้ง ค่าธรรมเนียม: ไม่มี ข้อมูลเพิ่มเติม: การถอนเงินเป็นลักษณะการกรอกข้อมูลธนาคารที่ต้องการถอนเงิน แนะนำการถอนเงินที่ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อวัน สำหรับการถอนเงินครั้งแรกต้องยืนยันหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ระบุในการถอนเงินที่อีเมล [email protected] วิธีการฝากเงิน: https://bit.ly/3BT4oqX วิธีการถอนเงิน: https://bit.ly/3jTIo95
2. ธนาคารภายในประเทศ (Internet Banking)	การฝากเงิน:  เข้าทันที ขั้นต่ำ $25 สูงสุดไม่เกิน $11000 ต่อครั้ง โอนเงินผ่านระบบ Internet banking ด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรี และธนาคารทหารไทยธนชาต การถอนเงิน: ดำเนินการ 1-2 วันทำการ ขั้นต่ำ $25 สูงสุดไม่เกิน $11000 ต่อครั้ง ค่าธรรมเนียม: ไม่มี ข้อมูลเพิ่มเติม: การถอนเงินเป็นลักษณะการกรอกข้อมูลธนาคารที่ต้องการถอนเงิน วิธีการฝากเงิน: https://bit.ly/3l53h0t วิธีการถอนเงิน: https://bit.ly/3jXuS4g
3. เพย์พาล (Paypal)	การฝากเงิน: เข้าทันที ขั้นต่ำ $10 ขึ้นไป การถอนเงิน: ถอนขั้นต่ำ $10 ดำเนินการ 1-2 วันทำการ ค่าธรรมเนียม: ไม่มี ข้อมูลเพิ่มเติม: หากฝากเงินเข้ามาไม่ถึง 300 วัน เมื่อถอนเงินจะต้องถอนออกเท่ากับจำนวนที่เคยฝากให้ครบก่อน จึงจะสามารถถอนส่วนต่างออกทาง Paypal หรือทางช่องทางอื่นได้ หากยอดเงินที่ฝากเข้ามาเกิน 300 วัน จะสามารถระบุยอดที่ต้องการถอนเงิน และสามารถเลือกถอนเงินผ่านช่องทางอื่นได้ ชื่อ-สกุลและอีเมลที่ใช้สมัคร Paypal ต้องเป็นอีเมลเดียวกันกับที่ลงทะเบียนกับ Pepperstone
4. เน็ตเทลเลอร์/สกริล (Neteller/Skrill)	การฝากเงิน: เข้าทันที ขั้นต่ำ $10 ขึ้นไป การถอนเงิน: ถอนขั้นต่ำ $10 ดำเนินการ 1-2 วันทำการ ค่าธรรมเนียม: ไม่มี ข้อมูลเพิ่มเติม: หากฝากเงินเข้ามาไม่ถึง 300 วัน เมื่อถอนเงินจะต้องถอนออกเท่ากับจำนวนที่เคยฝากให้ครบก่อน จึงจะสามารถถอนส่วนต่างออกทาง Neteller/Skrill หรือทางช่องทางอื่นได้ หากยอดเงินที่ฝากเข้ามาเกิน 300 วัน จะสามารถระบุยอดที่ต้องการถอนเงิน และสามารถเลือกถอนเงินผ่านช่องทางอื่นได้ ชื่อ-สกุลและอีเมลที่ใช้สมัคร Neteller/Skrill ต้องเป็นอีเมลเดียวกันกับที่ลงทะเบียนกับ Pepperstone
5. โอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Wire Transfer)	การฝากเงิน: ไม่รองรับการฝากเงินจากธนาคารในประเทศไทย การถอนเงิน: ถอนขั้นต่ำ $80 ดำเนินการ 3-7 วันทำการ รองรับทุกธนาคาร ค่าธรรมเนียม: ค่าธรรมเนียม $20 ต่อครั้ง อาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากธนาคารไทย รายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามจากธนาคารที่ใช้บริการโดยตรง ข้อมูลเพิ่มเติม: หากต้องถอนเงินผ่านช่องทางนี้สามารถติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตไทย [email protected]
หมายเหตุ: หลังจากร้องขอถอนเงินต้องกดอนุมัติการถอนในอีเมล/การยืนยันแบบสองขั้นตอนภายใน 1 ชั่วโมง หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด คำร้องขอถอนเงินของท่านจะถูกยกเลิกทันที

ขั้นตอนการเปิดบัญชี Pepperstone

• เริ่มต้นด้วยการเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Pepperstone
• คลิกที่ปุ่ม “สร้างบัญชี” หรือ “เริ่มการซื้อขาย” เพื่อเริ่มกระบวนการสมัคร
• กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเกิด ข้อมูลติดต่อ และที่อยู่
• เลือกประเภทบัญชีที่ต้องการระหว่างแบบ Standard หรือ Razor
• ระบุข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ แหล่งรายได้ เงินออม และวัตถุประสงค์ในการลงทุน
• ทำแบบทดสอบความรู้ด้านการเทรดโดยย่อเพื่อประเมินความเข้าใจเรื่องความเสี่ยง
• ยืนยันตัวตนโดยส่งเอกสารประกอบ เช่น สำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และหลักฐานแสดงที่อยู่ปัจจุบัน
• อ่านและยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆ ของ Pepperstone
• หลังจากบัญชีได้รับการยืนยันแล้ว ให้เติมเงินเข้าบัญชีด้วยวิธีการที่สะดวก เช่น โอนเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต/เดบิต หรือ e-wallet
• ดาวน์โหลดและติดตั้งแพลตฟอร์มเทรดที่ต้องการใช้งาน เช่น MetaTrader 4, MetaTrader 5 หรือ cTrader
• ล็อกอินเข้าสู่แพลตฟอร์มโดยใช้ username และ password ที่ได้รับจาก Pepperstone
• เริ่มต้นการเทรดได้ทันที

หมายเหตุ: อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดและขั้นตอนล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ Pepperstone ก่อนดำเนินการสมัครจริง