LiteFinance ดีไหม รีวิว ข้อมูลโบนัสเงื่อนไข

LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2005 ภายใต้ชื่อ LiteForex ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น LiteFinance ในปัจจุบัน แม้จะเป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 19 ปี แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทย วันนี้เราจะมาดูกันว่า LiteFinance มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และเหมาะสมกับเทรดเดอร์แบบไหน

โบรกเกอร์ LiteFinance คือ อะไร?

LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศไซปรัส ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี โดยมีจุดเด่นคือการเสนอบัญชีเทรด ECN ที่มีสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น

LiteFinance ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงาน CySEC ของไซปรัส และ VFSC ของประเทศวานูอาตู นอกจากนี้ยังมีสำนักงานย่อยในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่

LiteFinance ดีไหม

LiteFinance มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เทรดเดอร์ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี ดังนี้

ข้อดี โบรกเกอร์ LiteFinance

1. ประสบการณ์ยาวนาน: ให้บริการมากว่า 19 ปี สร้างความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง
2. หลากหลายสินทรัพย์: รองรับการเทรดทั้ง Forex, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
3. บัญชี ECN: เสนอบัญชี ECN ที่มีสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
4. เลเวอเรจสูง: ให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 แม้จะต่ำกว่าโบรกเกอร์บางรายแต่ก็ยังถือว่าสูงพอสมควร
5. ฝากขั้นต่ำต่ำ: เริ่มต้นเพียง $50 หรือประมาณ 1,800 บาท เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองเทรดด้วยเงินจริง
6. แพลตฟอร์มหลากหลาย: รองรับทั้ง MT4, MT5 และแพลตฟอร์มบนมือถือ
7. เว็บไซต์ภาษาไทย: มีเว็บไซต์ภาษาไทยรองรับ ทำให้สะดวกสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
8. สำนักงานในไทย: มีสำนักงานตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ สร้างความน่าเชื่อถือสำหรับลูกค้าชาวไทย

ข้อเสีย โบรกเกอร์ LiteFinance

1. สเปรดกว้างในบัญชี Standard: บัญชี Standard มีสเปรดค่อนข้างกว้างเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำรายอื่น
2. ค่าคอมมิชชั่นสูงในบัญชี ECN: แม้จะไม่มีค่าคอมมิชชั่นในบัญชี Standard แต่บัญชี ECN มีค่าคอมมิชชั่นสูงถึง $7 ต่อล็อต ซึ่งสูงกว่าโบรกเกอร์หลายราย
3. ระบบการถอนเงินล่าช้า: มีรายงานจากผู้ใช้บางรายว่าการถอนเงินใช้เวลานานและมีปัญหาบ่อยครั้ง
4. ความน่าเชื่อถือยังไม่สูงนัก: แม้จะเปิดให้บริการมานาน แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางในประเทศไทย และมีรีวิวเชิงลบจำนวนหนึ่ง
5. การสนับสนุนลูกค้าไม่ดีเท่าที่ควร: มีรายงานว่าการติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าบางครั้งล่าช้าและไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
6. ข้อจำกัดด้านการให้บริการในบางประเทศ: ไม่ให้บริการในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA)

ความน่าเชื่อถือของ โบรกเกอร์ LiteFinance

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการด้าน Forex

LiteFinance ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ภายใต้ชื่อ LiteForex นับถึงปัจจุบัน (2024) มีอายุการให้บริการยาวนานกว่า 19 ปี ซึ่งถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์สูงในวงการฟอเร็กซ์

ใบอนุญาต LiteFinance / คะแนน Trust pilot

LiteFinance ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานดังต่อไปนี้:

1. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) – ใบอนุญาตเลขที่ 093/08
2. Financial Services Authority (FSA) of St. Vincent and the Grenadines – เลขที่ 931 LLC 2021

สำหรับคะแนนบน Trustpilot LiteFinance ได้รับคะแนน 1 จาก 5 ดาว จากผู้รีวิว 124 คน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาว่าผู้ใช้ที่ไม่พอใจมักจะเขียนรีวิวมากกว่าผู้ใช้ที่พอใจ

คะแนนจาก Trustpilot

LiteFinance ได้รับคะแนนจาก Trustpilot เพียง 1 จาก 5 ดาว จากผู้รีวิว 124 คน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ต่ำมาก โดยมีความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการถอนเงินและระบบโบนัส อย่างไรก็ตาม ก็มีความคิดเห็นเชิงบวกบ้างเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์ม

Scam และข่าวด้านการโกง / การตุกติก

จากการค้นหาข้อมูล ไม่พบรายงานที่ชัดเจนว่า LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ scam หรือมีการโกงลูกค้าอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากผู้ใช้บางรายเกี่ยวกับปัญหาในการถอนเงินและการให้บริการลูกค้าที่ไม่ดีพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่พอใจและความเข้าใจผิดว่าเป็นการโกง

ประเภทบัญชี LiteFinance

LiteFinance เสนอบัญชีเทรดหลัก 2 ประเภท ได้แก่:

1. บัญชี Classic

• สเปรดเริ่มต้นที่ 1.8 pips
• ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
• มีค่าสวอป (Swap)
• เลเวอเรจสูงสุด 1:1000
• เงินฝากขั้นต่ำ $50

2. บัญชี ECN

• สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips
• ค่าคอมมิชชั่น $7 ต่อล็อต
• มีค่าสวอป (Swap)
• เลเวอเรจสูงสุด 1:1000
• เงินฝากขั้นต่ำ $50

นอกจากนี้ ยังมีบัญชี CENT สำหรับผู้ที่ต้องการเทรดด้วยเงินทุนน้อย แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก

ช่องทางการฝากเงิน ถอนเงิน LiteFinance

LiteFinance รองรับวิธีการฝากและถอนเงินหลากหลายรูปแบบ ดังนี้:

วิธีการฝากเงิน

1. บัตรเครดิต/เดบิต
2. การโอนเงินผ่านธนาคาร
3. e-wallet เช่น Skrill, Neteller, Perfect Money
4. การโอนเงินผ่านระบบชำระเงินท้องถิ่น
5. คริปโตเคอเรนซี

วิธีการถอนเงิน

1. บัตรเครดิต/เดบิต
2. การโอนเงินผ่านธนาคาร
3. e-wallet
4. การโอนเงินผ่านระบบชำระเงินท้องถิ่น
5. คริปโตเคอเรนซี

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากผู้ใช้บางรายว่าการถอนเงินอาจใช้เวลานานและมีปัญหาบ่อยครั้ง ดังนั้นควรระมัดระวังและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนใช้บริการ

LiteFinance เทรดอะไรได้บ้าง?

LiteFinance เสนอการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท ได้แก่:

1. Forex: คู่สกุลเงินหลักและคู่สกุลเงินรอง
2. หุ้น (CFDs): หุ้นของบริษัทชั้นนำจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
3. ดัชนี: ดัชนีหุ้นสำคัญจากตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ
4. สินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำ, น้ำมัน, และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ
5. คริปโตเคอเรนซี: Bitcoin, Ethereum และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

การมีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดหลากหลายประเภทนี้ ทำให้เทรดเดอร์สามารถกระจายความเสี่ยงและแสวงหาโอกาสในการทำกำไรได้จากหลายตลาด

แพลตฟอร์มการเทรด

LiteFinance รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย ดังนี้:

1. MetaTrader 4 (MT4)

MT4 เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการฟอเร็กซ์ มีฟีเจอร์ครบครัน ใช้งานง่าย และรองรับการใช้ Expert Advisors (EAs) สำหรับการเทรดอัตโนมัติ

2. MetaTrader 5 (MT5)

MT5 เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มเติมและรองรับการเทรดสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์

3. แอปมือถือ

LiteFinance มีแอปพลิเคชันมือถือสำหรับทั้ง iOS และ Android ทำให้เทรดเดอร์สามารถติดตามและจัดการพอร์ตการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา

การรองรับแพลตฟอร์มที่หลากหลายนี้ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ตนเองถนัดและสะดวกที่สุด

ภาพรวมรีวิว LiteFinance

หลังจากที่เราได้พิจารณาข้อมูลต่างๆ ของ LiteFinance แล้ว สามารถสรุปภาพรวมได้ดังนี้:

ข้อดีของ LiteFinance:

1. ประสบการณ์ยาวนานในวงการฟอเร็กซ์
2. มีสินทรัพย์ให้เทรดหลากหลายประเภท
3. เสนอบัญชี ECN ที่มีสเปรดต่ำ
4. รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4 และ MT5
5. มีเว็บไซต์และสำนักงานในประเทศไทย

ข้อเสียของ LiteFinance:

1. สเปรดในบัญชี Standard ค่อนข้างกว้าง
2. ค่าคอมมิชชั่นในบัญชี ECN สูงกว่าโบรกเกอร์อื่น
3. มีรายงานปัญหาเกี่ยวกับการถอนเงินและการบริการลูกค้า
4. ได้รับคะแนนรีวิวต่ำบน Trustpilot

LiteFinance เหมาะกับใคร?

1. เทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการใช้บัญชี ECN ที่มีสเปรดต่ำ
2. ผู้ที่ต้องการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภทในที่เดียว
3. เทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานในประเทศไทย
4. ผู้ที่พอใจกับการใช้แพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5

LiteFinance อาจไม่เหมาะกับ:

1. เทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการสเปรดต่ำในบัญชี Standard
2. ผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการถอนเงิน
3. เทรดเดอร์ที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

สรุป

LiteFinance เป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ยาวนานและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบัญชี ECN ที่มีสเปรดต่ำ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังเกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่นที่สูงและปัญหาด้านการถอนเงินที่อาจเกิดขึ้น

ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีกับ LiteFinance ควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ และเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ควรเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อน เพื่อทดสอบการใช้งานแพลตฟอร์มและคุณภาพการให้บริการ

สุดท้ายนี้ การเทรดฟอเร็กซ์และ CFD มีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน และไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้

forexpug

Forexpug นักเขียนมือปืนรับจ้างเขียนบทความให้เว็บส่วนใหญ่ในโลก Forex จนน้องปั๊กสนใจ Forex ขึ้นมาจริง ๆ และอยากจะศึกษาไปด้วย เขียนบทความบนเว็บของตัวเองไปด้วยค่ะ และนี่คือเว็บของหนูหล่ะ คอยดู๊!!! หนูจะวิ่งให้ไกลเล๊ยย

www.forexpug.com